

Seobinggo
ร้านบิงซูเจ้าแรกในประเทศไทยแห่งนี้ฮอตฮิตสุดๆ ถึงขั้นที่คนต่อแถวยาวเหยียดทุกวันเสาร์อาทิตย์ แต่รู้ไหมเดี๋ยวนี้มีหลายสาขาแล้วนะ ใกล้ตรงไหนไปตรงนั้นได้เลย ที่นี่มีเมนูเด็ดหลายอย่าง ถ้าอยากได้รสชาติแบบเกาลี้เกาหลี เราแนะนำให้สั่ง Injeolmi Bingsu (เริ่มต้นที่ 140 บาท) เกล็ดน้ำแข็งโรยผงถั่วเหลืองหวานๆ เย็นชื่นใจ แต่ถ้าชอบทานรสผลไม้ ก็ต้องสั่ง mango cheese (เริ่มต้นที่ 235 บาท) ซึ่งมาพร้อมเนื้อมะม่วงเต็มปากเต็มคำ ไอศครีมวานิลลา 1 ลูก และชีสคิวบ์นุ่มๆ หรือ melon bingsu (350 บาท) ที่เหมือนได้กินเมลอนครึ่งลูก แถมยังมีไอศครีมเมลอนของ melona 1 แท่งเต็มๆ ด้วย
3. Sulbing

ถึงจะเข้าไทยช้า แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้ว Sulbing นี่แหละที่เป็นร้านบิงซูอันดับ 1 ในเกาหลีด้วยกว่า 490 สาขาทั่วประเทศ! ที่ร้านมีเมนูแปลกใหม่น่าลองเยอะมาก เราขอแนะนำ melon bingsu (395 บาท) ซึ่งมาพร้อมกับต็อก ถั่วแดง และคอร์นเฟลก และ yogurt melon bingsu (395 บาท) บิงซูโปะหน้าด้วยโยเกิร์ต ชีสเค้ก และเมลอนครึ่งลูก! หรือถ้าอยากกินเมนูคลาสสิค ก็สามารถสั่ง injeolmi bingsu หรือ red bean bingsu ได้ในราคาถ้วยละ 210 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นที่ไม่ใช่บิงซูด้วยนะ เช่น ต็อกสอดไส้ชีส (140 บาท)
ล่าสุดนี้ทางร้านได้เพิ่ม 3 เมนูใหม่ เพื่อต้อนรับเทศกาลสตรอว์เบอร์รี่ ได้แก่ ซอลบิงฮันสตรอว์เบอร์รี่ (395 บาท) คาสเทลล่าเค้กเกล็ดหิมะซอลบิง และซอลบิงสตรอว์เบอร์รี่ เต็มไปด้วยสตอรว์เบอร์รี่สดๆ และโมจิไส้ถั่วแดง มีทั้งแบบธรรมดา (370บาท) และแบบพรีเมี่ยมจัดเต็มโปะชีสเค้กเพิ่มเข้าไปอีกด้วยนะ (385บาท) จะมีอีกสาขาเปิดใหม่อาทิตย์หน้าด้วยนะ ดังจนดึงไม่หยุดจริงๆ
Credit: Sulbing Thailand
4. Elmar offwhite

ถ้าไม่อยากไปเบียดคนเยอะๆ ที่สยาม เราแนะนำให้ไปร้าน elmar offwhite ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในซอยเอกมัย อยากบอกว่าเจ้าของเป็นคนเกาหลีแท้ๆ เลยนะ ดังนั้นบิงซูที่นี่จึงให้ฟีลโฮมเมดสุดๆ เมนูไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือ canary mango bingsu (340 บาท) บิงซูโปะหน้าด้วยมะม่วงสุก 2 ลูกเต็มๆ เสิร์ฟพร้อมซอสมะม่วง ถั่วแดงกวน และคอร์นเฟลก อร่อยจนแทบอยากเอาตัวไปแหวกว่ายในถ้วยบิงซูเลยขอบอก ถ้าอยากกินมากกว่าบิงซู ที่นี่ก็มีขนมอย่างอื่นให้ลองด้วยนะ เช่น dutch baby pancake (260 บาท) และ new york cheese cake (130 บาท)
50/5 ซอยเอกมัย เวลาทำการ ทุกวัน 11.00-22.00 น. โทร.099-194-6169 bts เอกมัย
5. Okbingsul
ร้านบิงซูที่เปิดสาขาแรกบนถนนงามวงศ์วานแห่งนี้เปิดสาขาใหม่เร็วมากจนเราตามแทบไม่ทัน (ตอนนี้มีที่เชียงใหม่แล้วด้วยนะ!) แน่นอนว่าเราสามารถลิ้มรสเมนูบิงซูสุดคลาสสิคอย่าง injeolmi bingsu, red bean bingsu หรือ melon bingsu ได้ที่นี่ แต่เราอยากให้ไปลองบิงซูรสชาติไทยๆ ที่ร้านอื่นไม่มีอย่างบิงซูแตงโม ถึงแม้ว่าน้ำแข็งใสจะติดรสหวานไปหน่อย แต่ความดีงามของที่นี่คือราคาเริ่มต้นเบามาก ไซส์เล็กแบบเทคอเวย์ราคาแค่ 79 บาทเท่านั้นเอง! แถมบิงซูทุกถ้วยเสิร์ฟพร้อมไอศครีม 1 ลูกด้วยนะ ชวนเพื่อนๆ ไปบุกร้านได้เลย รับรองกระเป๋าไม่ฉีก
6. The Wicked Snow

บิงซูของร้าน the wicked snow นุ่มละมุนลิ้นมาก ซึ่งไม่แปลกเพราะร้านนี้เป็นกิจการลูกของบริษัทซึ่งผลิตเครื่องทำบิงซูนั่นเอง! เมนูที่เราชอบคือ chocolate bingsu (150/240 บาท) เกล็ดน้ำแข็งรสช็อกโกแลตพร้อมด้วยท็อปปิ้งจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นโอรีโอบด บราวนี่ และซอสช็อกโกแลต และ green tea bingsu (120/180 บาท) เกล็ดน้ำแข็งรสชาเขียวจับคู่กับถั่วแดงบด เป็นการจับคู่แบบคลาสสิคแต่กินกี่ครั้งก็อร่อย นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมปัง (เริ่มต้นที่ 120 บาท) และเครื่องดื่มทั้งร้อน เย็น ปั่น (เริ่มต้นที่ 120 บาท)
7. Snow Tree

คาแฟ่แห่งนี้มีสาขามากถึง 6 สาขา! เรียกว่าจะไปในเมืองนอกเมืองยังไงก็หาบิงซูของ snow tree กินได้เสมอ เมนูมีให้เลือกหลากหลายจนตาลาย ไม่ว่าจะเป็น black sesame bingsu (170/240 บาท) caramel popcorn (150/200 บาท) และ brownie chocolate (200/270 บาท)
8. Hollys Coffee

ลิสต์นี้คงไม่ครบถ้วนหากขาด hollys coffee คาเฟ่สัญชาติเกาหลีซึ่งมีบิงซูหลากหลายรสชาติอยู่ในเมนูด้วย ไม่ว่าจะเป็น strawberry bingsu (290 บาท) mango bingsu (270 บาท) blueberry yoghurt bingsu (270 บาท) แต่ที่เหมาะกับซัมเมอร์สุดๆ ก็ต้อง orange bingsu (290 บาท) บิงซูส้มรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว กินแล้วอยากเบิ้ลอีกชาม! เอ้อ ความดีงามคือเราสามารถสั่งไซส์เล็กได้ด้วยนะ ถ้าอยากกินบิงซูคนเดียวแบบสตรองๆ ก็ต้องมุ่งหน้าไป hollys coffee เลย