
ไม่ต้องบินไปไกลถึงฮ่องกง (แถมไม่ต้องรอคิวนานเป็นชั่วโมง) ก็กินซาลาเปาจาก Little Bao ได้แล้วนะ! ในที่สุดร้านที่หลายคนรอคอยก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ 72 Courtyard คอมมูนิตี้มอลล์สุดฮิปแห่งใหม่ใจกลางทองหล่อ แถมเป็นครั้งแรกที่ได้ขยับขยายมาเปิดเป็นสาขาที่สอง โดยดัดแปลงเมนูอาหารจีนประเภทสตรีทฟู้ดให้มีสีสันมากขึ้น และสามารถสั่งค็อกเทลอร่อยๆ มาทานคู่กันได้เช่นกัน

แต่สิ่งที่เป็นดาวเด่นของร้านที่ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในฮ่องกง คือเมนูเปาเบอร์เกอร์แป้งซาลาเปาเสิร์ฟกับไส้เด็ดๆ อย่างหมูสามชั้น ไก่เสฉวนสุดกรอบ เทมปุระปลา และเห็ดชิตาเกะเทมเป้ (240 บาท)

แต่ถ้าชอบของหวานมากกว่าเห็นจะต้องลองแซนวิชไอศครีมแป้งซาลาเปาทอด (120 บาท) โดยได้ไอศครีมรสชาติไม่เหมือนใครจาก Guss Damn Good ถ้าชอบความหวานมันจะสั่งไส้ไอศครีมรส Sea Salt Caramel มาลองชิมดูนะ รับรองว่าฟิน!

เราเชื่อว่า “มะม่วง” คงเป็นผลไม้สุดโปรดของหลายๆ คน โดยเฉพาะมะม่วงสุกเนื้อหวานนุ่มถึงใจที่กินกับอะไรก็อร่อย! เราขอแนะนำคาเฟ่ของหวานแห่งใหม่ย่านท่าเตียนที่จริงจังกับเมนูมะม่วงสุดๆ ลองสั่ง Make Me Mango (185 บาท) เมนูไฮไลท์ชื่อเดียวกับร้าน ประกอบด้วยมะม่วงสุก ข้าวเหนียวมูนกับสังขยา ไอศกรีมมะม่วงโฮมเมด และพุดดิ้งมะม่วงนุ่มๆ

แล้วอย่าลืมสั่ง Mango Smoothie (105-120 บาท) มาดื่มให้ชื่นใจได้รสชาติผลไม้เต็มๆ เพราะเขาใช้มะม่วงทั้งลูกต่อ 1 แก้วเลยนะ นอกจากนี้ยังมีบิงซู (175-185 บาท) หลายรสไว้ดับร้อน หรือจะเป็นอาหารคาวแบบไทยๆ อย่าง ผัดไทย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ส้มตำ (เริ่มต้น 110 บาท) ก็มีไว้ให้เลือกกัน

ความดีงามอีกอย่างคือในร้านจัดสรรพื้นที่และตกแต่งได้เก๋มาก โดยเฉพาะที่นั่งเปลตาข่ายบนชั้น 2 ที่มองทะลุได้ถึงข้างล่าง กินอิ่มแล้วจะนั่งแชะรูปลงอินสตาแกรมหรือนอนเล่นสักพักก็ยังได้นะ :D

ไหนใครไปต่อคิวกินไอศกรีม Ben and Jerry’s เมื่อต้นเดือนที่แล้วมาบ้างยกมือขึ้น! หากพลาดไปก็ไม่ต้องเสียใจนะ ลงทุนไปหม่ำกันเองเลยดีกว่า ถ้ายังสงสัยว่าทำไมทุกคนถึงดูตื่นเต้นกับเจ้าไอศกรีมตัวนี้จัง เราว่าคงจะเป็นเพราะคุณภาพแบบซุปเปอร์พรีเมี่ยมและรสชาติที่แสนจะหลากหลายกว่า 70 รส โดยปักหลักสาขาแรกในไทยที่สยามพารากอนนี่เอง

ตอนนี้ที่ไทยมี 12 รสให้เลือกโดนกันได้ตามใจชอบ ได้แก่ Caramel Chew Chew, Cherry Garcia, Chocolate Chip Cookie Dough, Chocolate Fudge Brownie, Chunky Monkey, Cinnamon Buns, Fairly Nuts, Mint Chocolate Chunk, Peanut Butter Cup, Phish Food, Strawberry Cheesecake และ Vanilla ราคาเริ่มต้นที่ 129 บาทสำหรับโคนและถ้วยเล็ก จะอัพเกรดเป็นวาฟเฟิลโคน (เพิ่ม 40 บาท) หรือเป็นซันเดย์ถ้วยโต (เริ่มต้น 245 บาท) ก็ยังได้นะ ถึงตอนนี้จะมีขายที่ 7-eleven บ้างแล้ว (เช็กสาขาได้ที่นี่) แต่เราว่าไปนั่งหม่ำที่ร้านได้ฟีลกว่าเยอะเลย สายของหวานไปลุยด่วน!

ฟาร์มใส่ใจได้ขยับขยายมาเปิดบ้านใหม่ที่ซอยคอนแวนต์พร้อมอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้เลือกสรรมากมายไม่แพ้สาขาแรกที่ประชาชื่น เติมความสดชื่นกันด้วยน้ำผลไม้สกัดเย็นสดใหม่ทุกวัน ไม่ผสมน้ำและน้ำตาล ได้เนื้อผลไม้เน้นๆ อย่าง Red Dragon (แก้วมังกร, แอปเปิ้ล และมะเขือเทศ ขวดละ 95 บาท) หรือจะเป็น Bloody Beet (บีทรูท, แตงโม และเลมอน ขวดละ 95 บาท) น่าจะถูกใจคนชอบรสเปรี้ยวอมหวานไม่ใช่น้อย

นอกจากนี้ยังมีข้าวกล่องคลีนหลากหลายเมนูจากครัวบูมบ้าที่ปรุงพิเศษและหาซื้อได้ที่นี่เท่านั้น อาทิ ข้าวหน้าหมู (59 บาท) ปลาดอลลี่ผัดฉ่า (95 บาท) อกไก่เพสโต้ (135 บาท) หรือเมนูมังสวิรัติอย่างหมี่ซั่วเห็ด (59 บาท) พร้อมบริการอุ่นให้ฟรีด้วย รวมไปถึงอาหารเพื่อสุขภาพอื่นๆ ที่สายคลีนน่าจะคุ้นเคยกัน อย่างนมอัลมอนด์ของ 137 Degrees (กล่องละ 25 บาท, แพ็ค 3 กล่อง 72 บาท) น้ำเต้าหู้สดกินผัก (ขวดละ 35 บาท) กราโนล่าจาก Farmer’s Grain (135 บาท) คุกกี้จาก Joe’s Selects (เริ่มต้น 60 บาท) จนไปถึงชาจาก Tea Atelier และกาแฟจาก Roots (100 บาท) และอื่นๆ อีกเพียบ ในร้านมีที่นั่งไม่เยอะเท่าไหร่ เราแนะนำให้ไป grab & go มากกว่าจ้า

สำหรับใครที่ชอบกินอะไรหนักๆ แบบไม่แคร์แคลอรี่ใดๆ ทั้งสิ้น เราชวนไปกินเบอร์เกอร์ชิ้นโตจากฟู้ดทรักสีแดงแรงฤทธิ์เจ้าใหม่อย่าง Fat-U Homemade Burgur จุดเด่นคือ Saffron Brioche Bun สีเหลืองทองสูตรเฉพาะโดย Conkey’s Bakery ตอนนี้มี 3 เมนูหลักๆ ให้เลือกคือ Classic, BBQ (หมู 170 บาท, เนื้อ 180 บาท)

เราอยากให้ลองคือ Fat My Life (หมู 220 บาท, เนื้อ 230 บาท) นอกจากทั้งเนื้อและหมูจะนุ่มชุ่มฉ่ำเพราะผ่านการปรุงแบบ Sous Vide มาแล้ว เจ้าเบอร์เกอร์ยังอัดแน่นด้วยหอมใหญ่ผัด มะเขือเทศอบไร้น้ำ ผักใบเขียวกรุบๆ และชีสคอมโบเยิ้มๆ ผสม 3 ชนิด (Gruyere, Cheddar Cheese และ Parmigiano Reggiano Cheese) อีกด้วยนะ ถ้าใครอยากเพิ่มเบคอนก็จัดไปอีก 25 บาทเท่านั้นจ้า ติดตามพิกัดเจ้ารถเบอร์เกอร์นี้ได้ที่แฟนเพจ Fat-U Homemade Burger เลยนะ

ดื่มเบียร์จากแท็บกันมาเยอะแล้ว มาลองดื่มกาแฟ Nitro Cold Brew จากแท็บกันบ้างไหม? ถึงแม้จะเป็นเพียงคีออสเล็กๆ หลังตึกสูงใหญ่ ITF ย่านสีลม แต่คุณภาพและความใส่ใจในทุกแก้วของ Bhava Cafe ไม่เล็กตามไปเลย เนื่องจากคุณแบงค์ เจ้าของร้านเคยเป็นบาริสต้าอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย และด้วยความชื่นชอบและหลงไหลในกาแฟเลยกลับมาเปิดหน้าบ้านเสิร์ฟเองซะเลย โดยเลือกเมล็ดกาแฟท้องถิ่น คั่ว และบดเองทุกขั้นตอนเชียวนะ

กาแฟแบบ Nitro Cold Brew มีความพิเศษตรงฟองนุ่มเหมือนเบียร์ ผ่านกระบวนการ Cold Brew (ชงด้วยน้ำเย็น) และอัดไนโตรเจนเข้าไปอีกที ที่ร้านมีทั้งแบบคั่วเข้มสำหรับคอกาแฟ กลิ่นกาแฟเต็มๆ และขั้วอ่อนที่มีรสชาติเปรี้ยวเบาๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบกาแฟ จะสั่งชาแทนก็ได้นะ ทุกแก้วราคา 50 บาท (เพิ่มนม 10 บาท)



คุณฮอน มือกีต้าร์จากวง Post-Rock ไทยอย่าง Hope the Flowers ตั้งใจให้ Ageha Cafe เป็นแหล่งรวมตัวของนักดนตรีอินดี้และผู้ชื่นชอบเสียงเพลงคอเดียวกัน จริงๆ แล้วคาเฟ่นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Brownstone สตูดิโอสำหรับนักดนตรีทุกแนวในซอยสุขุมวิท 77 โดยตกแต่งแบบเรียบง่ายด้วยโปสเตอร์วงดนตรีเป็นวอลเปเปอร์ โต๊ะเก้าอี้ไม้สีเข้ม และกระจกใสบานใหญ่รับแสงธรรมชาติ แถมมีที่นั่งด้านนอกให้รับลมชิลๆ แถมกลายเป็นลานเบียร์ในตอนค่ำด้วยนะ

นอกจากจะมีแผ่นซีดี แผ่นเสียง กระเป๋าผ้า กล่องใส่ฟิล์ม และของจิปาถะอีกไม่น้อย ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มไม่เหมือนใครให้ลองด้วยนะ อาทิ Brownstone (100 บาท) น้ำแข็งก้อนดาร์คช็อกโกแลตราดด้วยกาแฟอเมริกาโน่ หรือ Black Rose (100 บาท) กาแฟ Cold Brew ผสมกับไซรัปกลิ่นกุหลาบและน้ำทับทิม จะสั่ง Bruschetta (3 ชิ้น 60 บาท) หลากหลายหน้ามากินรองท้องไปด้วยก็ยังได้ ถ้าใครชอบบรรยากาศสบายๆ เคล้าไปด้วยเสียงเพลงอินดี้ เราว่าคาเฟ่นี้เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเลย แถมในอนาคตอาจจะมีฉายภาพยนตร์และแสดงดนตรีสดอีกด้วยนะ